อาณาจักรปลวก


จอมปลวก หรือ รังของปลวก ถือเป็นอาณาจักรของแมลงที่มีขนาดใหญ่และซับซ้อนมากที่สุดรังปลวกบางพันธุ์
ในทวีปแอฟริกามีความสูงเหนือพื้นดินถึง 6 เมตร มีอุโมงค์เชื่อมต่อใต้ดินครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 8 ไร่
และมีปลวกอาศัยอยู่รวมกันประมาณ 5 ล้านตัว รังของปลวกที่มีลักษณะเป็นกองดินขนาดใหญ่ในบ้านเรามักเป็นปลวกในสกุล
Macrotemes ความที่ปลวก (Termite) มีรูปร่างคล้ายมดและมีสีค่อนข้างขวาซีด จึงมีชื่อเรียกบางชื่อว่า White ant ทั้งที่จริง ๆ
แล้วปลวกจัดอยู่ในอันดับ Isopthera ส่วนมด ผึ้ง ต่อ แตน นั้นจัดอยู่ในอันดับ Hyminoptera เพราะปลวกมีส่วนท้องกว้างกว่าอก
ซึ่งผิดกับมดที่ส่วนท้องตอนที่ติดกับอกคอดกิ่ว ปัจจุบันทั่วโลกค้นพบชนิดของปลวกแล้วไม่ต่ำกว่า 1,800 ชนิด 200 สกุล
ส่วนในประเทศไทยเองพบว่ามีปลวกอยู่นับร้อยชนิด

ที่มา http://termite-kill.blogspot.com/2011/05/blog-post_19.html

ที่อยู่อาศัยของปลวก


- ปลวกที่อาศัยอยู่ในดิน จำแนกได้อีก 3 พวก คือ ปลวกใต้ดิน, ปลวกที่อยู่ตามจอมปลวก และปลวกที่อยู่ตามรังขนาดเล็ก
- ปลวกที่อาศัยอยู่ในเนื้อไม้ แยกเป็นปลวกไม้แห้ง เป็นพวกที่มีอาณาจักร หรือรังเล็กกว่าปลวกใต้ดิน อาศัยอยู่ในเนื้อไม้และจะไม่ลงไปในดิน ปลวกชนิดนี้ต้องการความชื้นในไม้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เป็นปลวกที่ทำลายความเสียหายให้กับอาคารบ้านเรือนและเครื่องเฟอร์นิเจอร์มาก ที่สุด และปลวกไม้ชื้น อาศัยอยู่ในเนื้อไม้ที่มีความชื้นสูง เช่น เปลือกไม้ ไม้ซุง หรือไม้ที่ผุแล้ว ตามปรกติแล้วปลวกประเภทนี้จะไม่มีอันตรายกับอาคารบ้านเรือนมากนัก
ทั้งนี้ปลวกชอบอาศัยอยู่ในที่ที่มีความชื้นสูง มีความอดทนต่ออากาศที่มีความกดดันต่ำ มันจึงต้องอาศัยอยู่ในพื้นดินที่มีความชื้นของบ้าน และจะเข้ามาตามพื้นช่วงล่างของอาคาร โดยสร้างทางเดินและไต่เข้ามาตามรอยแยกอาคาร ซึ่งไม่มีอาคารชนิดใดไม่ว่าจะปลูกใหม่หรือเก่าจะปลอดภัยจากปลวก มันสามารถสร้างทางเดินด้วยดินเหนียวหุ้มเป็นโพรง ไต่เข้าไปตามผนังหรือรอยแตกของคอนกรีต รอยต่อของอิฐ และท่อน้ำทิ้งของพื้นช่วงล่างของอาคารได้เสมอ
และหากจะสังเกตเมื่อเห็นปลวกที่มีปีกหรือแมงเม่าบินออกจากรูไปอย่างรวดเร็ว นั่นแสดงถึงลางร้าย พวกปลวกเหล่านี้จะบินไปซ่อนตัวตามอาคาร แล้วชอนไชเข้าไปกินเนื้อไม้ หรือทรัพย์สินของท่าน การกำจัดปลวกจึงต้องอาศัยผู้ที่มีอาชีพกำจัดปลวกโดยตรง หรือหากจะป้องกันด้วยตนเอง ควรหามาตรการโดยให้ผู้ชำนาญการกำจัดแมลง เป็ฯผู้สร้างมาตรการป้องกันตามหลักวิชาการที่ได้ผลแน่นอน และจะคงผลไว้ในระยะเวลานานหลายปี ซึ่งประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายอีกด้วย ด้วยความชำนาญของเจ้าหน้าที่ และตัวยาเคมีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

โดย สมาคมผู้ประกอบกิจการกำจัดแมลงแห่งประเทศไทย

ที่มา http://termite-kill.blogspot.com/2010/08/blog-post_4520.html

การสร้างรังปลวก ปลวกแต่ละชนิดต่างมีกลวิธีและรูปแบบในการสร้างรังไม่เหมือนกัน


ปลวกแต่ละชนิดต่างมีกลวิธีและรูปแบบในการสร้างรังไม่เหมือนกัน แต่ไม่ว่าจะมีขนาดมหึมาราวหอคอยหรือเล็กเพียงแค่เนินดิน
ปลวกจำนวนมากมายในแต่ละรังจะแบ่งออกได้เป็น 3 วรรณะคือ ปลวกงาน ผู้คอยวิ่งวุ่นทำงานทุกอย่างภายในรัง
เริ่มตั้งแต่ตอนก่อสร้างจอมปลวก ซ่อมแซมรังถ้ามีการสึกหรอ ดูแลรักษาไข่ของนางพญาไปจนถึงการหาอาหารมาเลี้ยงดูปลวกในวรรณะอื่น
ถัดมาคือ ปลวกทหาร ซึ่งมีรูปร่างทะมัดทะแมงมีส่วนหัวและกรามใหญ่โตกว่าส่วนอื่น เพื่อใช้เป็นอาวุธในการออกรบ
ปลวกทหารจะเป็นผู้ต้อนรับด่านแรกหากมีผู้บุกรุกเข้ามาภายในจอมปลวก และปลวกในวรรณะสุดท้ายได้แก่ ปลวกสืบพันธุ์

ซึ่งเป็นพวกเดียวที่มีโอกาสเจริญเติบโตจนสามารถผสมพันธุ์และวางไข่ได้ และเชื่อไหมว่าภายในจอมปลวกหนึ่ง ๆ ซึ่งมีปลวกนับหมื่นนับแสนตัวล้วนถือกำเนิดมาจากพญาปลวกเพียงตัวเดียว ส่วนนางพญาปลวกเกิดขึ้นได้อย่างไรนั้น ต้องไล่ค้นไปถึงวงจรชีวิตของปลวกอันเริ่มต้นจากการจับคู่ของมวลหมู่แมลงเม่า

ที่มา http://termite-kill.blogspot.com/2011/05/blog-post_61.html

จอมปลวก การสร้างจอมปลวก


การสร้างจอมปลวกเริ่มขึ้นโดยเหล่าปลวกงานจะช่วยกันกัดดินและขนดินมาทีละก้อนแล้วใช้น้ำลายเป็นตัวเชื่อมติด พวกมันค่อย ๆ สร้างผนังจอมปลวกแน่นหนาขึ้นทีละน้อยอย่างอดทนโดยมีปลวกทหารคอยทำหน้าที่อารักขาความปลอดภัยให้ ศัตรูสำคัญของปลวกทหารคือมดพันธุ์ต่างๆที่ชอบเข้ามารุกรานถึงภายในจอมปลวก เมื่อปราศจากการรบกวนปลวกงานจะสร้างห้องหับต่าง ๆอย่างเป็นระบบเริ่มตั้งแต่ตำหนักของนางพญาที่จะต้องแข็งแกร่งเป็นพิเศษและซ่อนอยู่มิดชิดที่สุดภายในรังแล้วจึงสร้างห้องเก็บรักษาไข่เพื่อบ่มฟักตัวอ่อน ซึ่งมันจะต้องขนไข่ออกจากตำหนักของนางพญามาจัดเก็บให้เป็นระเบียบอยู่เสมอเสร็จจากนั้นปลวกงานส่วนหนึ่งทำการขุดช่องระบายอากาศเพื่อให้ภายในจอมปลวกเย็นสบายอยู่ตลอดเวลารวมทั้งขุดอุโมงค์ใต้ดินสู่ภายนอกเพื่อใช้เป็นเส้นทางในการออกไปหาเสบียงอันได้แก่เศษไม้เป็นหลักความจริงปลวกไม่สามารถย่อยไม้ได้เองอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่เป็นโปรโตซัวซึ่งอาศัยอยู่ในกระเพาะของมันต่างหากที่ช่วยย่อยเซลลูโลสให้กลายเป็นสารอาหาร ปลวกงานจะนำเชื้อราที่ได้จากการย่อยมาสร้างเป็นสวนเห็ดขึ้นภายในจอมปลวกเพื่อลดภาระในการออกตระเวนหาอาหารจะเห็นว่าปลวกงานมีหน้าที่หนักที่สุดในบรรดาปลวกทั้ง 3 วรรณะปลวกงาน จึงมีประชากรมากที่สุดทั้งนี้นางพญาจะมีฮอร์โมนสังคม (Social Hormone) ควบคุมการวางไข่ให้อัตราส่วนประชากรในวรรณะต่าง ๆ ได้สมดุลอยู่ตลอดเวลา

ที่มา http://termite-kill.blogspot.com/2011/05/blog-post_207.html

วงจรชีวิตของปลวก

วัฏจักรชีวิตปลวก



ปลวกทหาร ต่อสู้ ป้องกัน พลเมืองปลวก จากมด

ปลวก ทำงาน ทำงานหาอาหาร กินไม้ กินประตู วงกบ


ราชินีปลวก  วางไข่


ราชินีปลวก และการวางไข่  วางไข่ วันละหลายหมื่น ฟอง โอ้..... บร่ะเจ้า
แมลงเม่า  
แมลงเม่า
ความเสียหายจากปลวก ปลวกกินวงกบหน้าต่าง
ปลวกกินคานบ้าน
รังปลวก เส้นทางเดินของกองทัพปลวก
วัฏจักรชีวิตปลวก ปลวกเมื่อโตเต็มวัยจะมีปีกหรือที่เรารู้จักกันว่า "แมลงเม่า” พบแมลงเม่ามากในช่วงต้นของฤดูฝน หรือระหว่างเดือนพฤษภาคม ถึง มิถุนายนและช่วงที่มีฝนตกผิดฤดูและมีปริมาณความชื้นสูง จึงเป็นระยะที่เหมาะกับการผสมพันธุ์ของแมลงเม่าและพบเห็นบ่อย แมลงเม่าทั้งตัวผู้และตัวเมีย เมื่อบินออกจากรังจะจับคู่กันแล้วจะสลัดปีกทิ้ง จากนั้นจะพากันไปหาสถานที่ที่เหมาะสมในการที่จะเป็นรังใหม่ของมันต่อไปนั่น คือบริเวณที่มีความชื้นสูงและมีแหล่งของอาหารคือไม้อย่างพอเพียง ขั้นตอนการผสมพันธุ์เริ่มจากปลวกเพศเมีย ซึ่งกลายเป็นราชินีปลวกจะปล่อยกลิ่นฟีโรโมน ทำให้ปลวกตัวผู้(ปลวกราชา)ไปหาและผสมพันธุ์กัน เมื่อสร้างรังเสร็จตัวราชินีปลวกจะเริ่มวางไข่ภายในเวลา 1 เดือน การวางไข่ของราชินีปลวกครั้งแรกจะมีจำนวนน้อยประมาณ 10 ฟองหรือมากกว่า ไข่จะฟักเป็นตัวอ่อนปลวกออกมาภายในเวลาหลายสัปดาห์ วัฏจักรชีวิตปลวก รุ่น แรกจะเป็นปลวกงานและปลวกทหาร ในระยะแรกตัวอ่อนจะได้รับอาหารจากปลวกราชินีโดยการกินมูลและอาหาร ซึ่งทำให้ปลวกได้รับโปรโตซัวและแบคทีเรีย ต่อมาส่วนท้องของปลวกราชินีจะขยายใหญ่ขึ้นและจะเริ่มวางไข่อีกและจะเคลื่อน ไหวไปไหนมาไหนไม่ได้ ในครั้งนี้จะเป็นการผลิตปลวกงานและปลวกทหารให้เพิ่มขึ้น ในระยะ 3-4 ปีต่อมาราชินีจึงวางไข่เพื่อผลิตวรรณะสืบพันธุ์ชุดแรก สำหรับตัวราชาปลวกจะมีรูปร่างขยายขึ้นกว่าเดิมไม่มากนัก จะคอยอยู่ใกล้ๆ กับตัวนางพญาปลวกเพื่อทำการผสมพันธุ์เพียงอย่างเดียว ลักษณะไข่ปลวกมีรูปร่างเรียวยาวหรือค่อนข้างกลม สีขาวนวลมักวางเป็นฟองเดี่ยวหรือเป็นกลุ่มคล้ายไข่แมลงสาบ เมื่อฟักออกเป็นตัวจะมีลักษณะเหมือนตัวเต็มวัยแต่จะมีขนาดเล็กกว่า ตัวอ่อนจะลอกคราบหลายครั้งและเจริญเป็นตัวเต็มวัยที่ไม่มีปีกและเป็นหมัน คือปลวกงานและปลวกทหาร ส่วนตัวอ่อนที่ลอกคราบกลายเป็นตัวเต็มวัยมีปีกหรือแมลงเม่าจะกลายเป็นวรรณะ สืบพันธุ์ ระยะเวลาการเจริญของวรรณะสืบพันธุ์จากไข่ถึงตัวเต็มวัยใช้เวลา 9-10 เดือน ส่วนวรรณะทหารและกรรมกรใช้เวลา 4-6 เดือน วงจรชีวิตปลวกนางพญาและปลวกราชาจะมีอายุยืนยาวถึง 25-50 ปี เริ่มต้นขึ้นเมื่อฤดูการเหมาะสม ส่วนใหญ่มักเป็นช่วงหลังฝนตกปีละประมาณ 2 -3 ครั้งโดยแมลงเม่าเพศผู้และเพศเมีย (Alate or winged reproductive male of female ) บินออกจากรังในช่วงเวลาพลบค่ำประมาณ 18.30-19.30 น. เพื่อมาเล่นไฟจับคู่ผสมพันธุ์กันจากนั้นจึงสลัดปีกทิ้งไป แล้วเจาะลงไปสร้างรังในดินในบริเวณที่มีแหล่งอาหารและความชื้น หลังจากปรับสภาพดินเป็นที่อยู่แล้วประมาณ 2-31 วันจึงเริ่มวางไข่เป็นฟองเดี่ยวๆและจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนอาจถึงวันละหลายพันฟอง ไข่จะฝักออกมาเป็นตัวอ่อน (Larva ) และจะเจริญเติบโตโดยมีการลอกคราบจนเป็นตัวเต็มวัย ไข่รุ่นแรกจะฝักออกมาเป็นปลวกไม่มีปีก และเป็นหมันสารเคมีที่เรียกว่าฟีโรโมนหรือสารที่ผลิตออกมาจากทวารหนักของ ราชินี เพื่อให้ตัวอ่อนเกิดจะเป็นตัวกำหนดให้ตัวอ่อนพัฒนาไปเป็นปลวกวรรณะต่างๆเช่น ปลวกงาน (Worker ) ปลวกทหาร (Soldier ) โดยบางส่วนของตัวอ่อนจะเจริญไปเป็นปลวกที่มีปีกสั้น ไม่สมบูรณ์ ซึ้งอยู่ในช่วงระยะเจริญพันธุ์ (Nymphs ) เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์จะเจริญไปเป็นแมลงเม่า ซึ่งมีปีกยาวสมบูรณ์เต็มที่บินออกไปผสมพันธุ์ต่อไป ตัวอ่อนบางส่วนจะเจริญเติบโตเป็นปลวกวรรณะสืบพันธุ์รอง (Supplementary Queen and king ) ซึ่งทำหน้าที่ผสมพันธุ์และอกไข่ เพิ่มจำนวนประชากร ในกรณีที่ราชา (King ) หรือราชินี (Queen ) ของรังถูกทำลายไป ที่มา http://termite-kill.blogspot.com/2010/08/blog-post_7151.html

การวางระบบท่อป้องกันปลวก


ก่อนการก่อสร้างบ้านควรมีการจัดทำระบบท่อป้องปลวกไว้ในขั้นตอนแรกๆเพราะปลวกคือแมลงเม่า ที่ไหนมีแมลงเม่าบินไปถึง ที่นั้นอาจเป็นบ้านของปลวกหลังต่อไป ก่อนก่อสร้าง ระบบท่อป้องกันปลวกจะเดินตามคานสิ่งปลูกสร้างและทำการเจาะรูที่ท่อเป็นระยะๆ โดยลักษณะของท่อกำจัดปลวกนั้นจะไม่สัมผัสกับดินเพราะอาจจะทำให้ท่ออุดตันได้ ซึ่งระบบท่อจำจัดปลวกนี้จะสะดวกสบายกว่า เพราะไม่จำเป็นต้องเข้าไปในตัวบ้าน ไม่ต้องทำการทุบพื้น เจาะบ้านเป็นรูเพื่อฉีดน้ำยากำจัดปลวกระยะเวลาในการฉีดสารเคมีกำจัดปลวกลงในท่อกำจัดปลวกนั้นโดยทั่วไปขึ้นอยู่กับระยะเวลาตกค้างของสารเคมีกำจัดปลวกซึ่งทั้วไปมักฉีดปลวกประมาณปีละครั้ง

การทำ Pipe Treatment เป็นการวางท่อไว้ใต้อาคารเพื่อกำจัด และป้องกัน ปลวก การบริการจะต้องมีการเตรียมพื้นที่แล้วติดตั้งท่อตามแนวคานคอดิน ที่อยู่ใต้อาคาร การอัดน้ำยาเข้าท่อโดยใช้เครื่องอัดแรงดันสูง ทำให้น้ำยาแพร่กระจายตามท่อที่ติดตั้งไว้ ทั้งนี้การติดตั้งท่อจะทำตอนที่คานคอดินเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ที่มา http://termite-kill.blogspot.com/2010/08/blog-post_6768.html

ปลวก จัดเป็นแมลงสังคมชนิดหนึ่ง จัดอยู่ในอันดับ Isoptera


ปลวก จัดเป็นแมลงสังคมชนิดหนึ่ง จัดอยู่ในอันดับ Isoptera มีชีวิตความเป็นอยู่อย่างสลับซับซ้อน แบ่งออกเป็น 3 วรรณะ มีรูปร่างและหน้าที่ต่างกันชัดเจนคือ วรรณะปลวกงาน ทำหน้าที่หาอาหารและสร้างรัง วรรณะทหาร ป้องกันศัตรูที่เข้ามารบกวนประชากรในรัง และวรรณะสืบพันธุ์ ทำหน้าที่สืบพันธุ์วางไข่

แม้ว่าปลวกบางชนิดจะเป็นศัตรูที่สามารถทำลายความเสียหายให้แก่ไม้ ต้นไม้ หรือผลิตผลที่มีเซลลูโลสเป็นองค์ประกอบได้ แต่ในทางนิเวศวิทยาแล้ว ปลวกกว่า 80% จัดเป็นแมลงที่มีประโยชน์และมีความสำคัญต่อระบบนิเวศป่าไม้มาก โดยปลวกจัดเป็นผู้ย่อยสลายในป่าธรรมชาติ ซึ่งทำหน้าที่ร่วมกันกับเชื้อราและแบคทีเรีย พบว่าประมาณ 3 ใน 4 ของขยะธรรมชาติ เช่น ซากพืช เศษไม้ ใบไม้ ท่อนไม้ หรือต้นไม้ที่หักล้มร่วงหล่นทับถมกันอยู่ในป่า ปลวกจะทำหน้าที่ ช่วยในการย่อยสลายให้ผุพังและเปลี่ยนแปลงไปเป็นฮิวมัสหรือินทรีย์วัตถุภายในดิน ก่อให้เกิดการหมุนเวียนอย่างรวดเร็วของธาตุอาหารในดิน สร้างความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ดินในป่า ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของต้นไม้

ที่มา http://www.rspg.or.th/articles/termite/termite1.html